Differential and Incremental Backups
ข้อมูลโดยส่วน ใหญ่จะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงแบบวันต่อวัน ดังนั้นคุณสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยการแบ็กอัพข้อมูลเฉพาะส่วนที่เปลี่ยนแปลงเท่านั้น ระบบไฟล์สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลได้จากพารามิเตอร์ archive bit เมื่อไรก็ตามที่ไฟล์ถูกสร้างหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไข ข้อมูลระบบไฟล์จะเซตค่าของ archive bit เป็น 1 เมื่อเกิดการแบ็กอัพข้อมูลซอฟต์แวร์ในการแบ็กอัพจะเคลียร์ค่า archive bit (โดยการตั้งค่ากลับเป็น 0) ในแต่ละไฟล์แบ็กอัพคุณสามารถเห็นสถานะของ archive bit ได้ โดยการคลิ้กขวาที่ filename ใน Explorer เลือกที่ properties และหา Archive check box ทางด้านล่างสุด ในการแบ็กอัพข้อมูลซึ่งมีอยู่ 3 แบบ คือ แบบ Full Backup, Differential Backup, Incremental Backup จะใช้ archive bit ในการตรวจสอบสถานะของไฟล์ก่อนแบ็กอัพข้อมูล
Full Backup มีความหมายเหมือนกับชื่อที่ตั้ง คือจะสำเนาข้อมูลทุกๆ อย่างบนฮาร์ดดิสก์แล้วเคลียร์ค่า archive bit ให้เป็นศูนย์ ในแต่ละครั้งที่มีการแบ็กอัพข้อมูล การกู้คืนข้อมูลจากการแบ็กอัพข้อมูลแบบ Full backup จะใช้เพียงขั้นตอนเดียวในการแบ็กอัพ แต่ข้อเสียคือ ขนาดของไฟล์แบ็กอัพจะมีขนาดใหญ่ และใช้เวลาในการแบ็กอัพนาน
Differential Backup จะสำเนาข้อมูล เฉพาะที่ถูกแก้ไขนับตั้งแต่การทำสำเนาข้อมูลแบบ Full backup ครั้งล่าสุด และไม่เปลี่ยนแปลงค่า archive bit ของไฟล์เหล่านั้น เพราะฉะนั้นเมื่อคุณแบ็กอัพข้อมูลแบบ Differential backup ติดกัน 2 ครั้ง ข้อมูลที่ถูกแบ็กอัพในครั้งแรกก็จะถูกแบ็กอัพซ้ำอีกครั้งในครั้งที่สองด้วย การกู้คืนข้อมูลในแบบ Differential backup ในขั้นแรกคุณต้องกู้คืนข้อมูล แบบ Full backup จากข้อมูลชุดล่าสุดก่อน ตามด้วย การกู้คืนข้อมูลจาก Differential Backup ซึ่งข้อมูล ที่ถูกแก้ไขนับตั้งแต่การทำ Full backup ครั้งล่าสุดจะ อยู่ในเทปของ Differential backup ม้วนล่าสุดทั้งหมด
Incremental Backup จะสำเนาข้อมูลเฉพาะ ที่ถูกแก้ไขนับตั้งแต่การทำสำเนาข้อมูลแบบ Full Backup ครั้งล่าสุดหรือการทำ Incremental Backup ครั้งสุดท้าย และจะเคลียร์ค่า archive bit ในทุกไฟล์ที่สำเนาไว้ให้เป็นศูนย์ เพราะฉะนั้นเมื่อคุณแบ็กอัพข้อมูลแบบ Incremental backup ติดกัน 2 ครั้ง ข้อมูลที่ถูกแบ็กอัพไว้ในครั้งแรกและไม่ได้ถูกแก้ไขเพิ่มเติมอีก ก็จะไม่ถูกแบ็กอัพซ้ำ การกู้คืนข้อมูลในขั้นแรกคุณต้องกู้คืนข้อมูล Full Backup ครั้งล่าสุดก่อน ตามด้วยการกู้คืนข้อมูลจาก Incremental Backup ตามเวลาที่ต้องการกู้คืนข้อมูล
การใช้ Differential หรือ Incremental backup จะ ลดจำนวนพื้นที่ที่ใช้จัดเก็บข้อมูลลง แต่จะเพิ่มความยุ่งยากในการทำงานมากขึ้น แผนหนึ่งที่ง่ายต่อการปฏิบัติก็คือ การทำ full backup ในวันสุดท้ายของแต่ละสัปดาห์ และทำ Differential หรือ Incremental backup ในช่วงหลังเวลาเลิกงานของแต่ละวัน และไม่ควรทำ incremental กับ differential backup ร่วมกัน เพราะจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการจัดการ
Archive bit จะถูกตรวจสอบค่าเมื่อตอน เริ่มต้นของวัน โดยระบบ DOS จะตรวจเช็กเมื่อคุณเปิดเครื่อง แต่ค่า archive bit ก็ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงแก้ไขไฟล์ที่น่าเชื่อถือเท่าใดนัก เพราะโปรแกรมใดๆ ก็ตาม สามารถเปลี่ยนแปลงค่าของมันได้ตลอด โดยเรียกใช้ฟังก์ชันง่ายๆ ของวินโดวส์ ใครก็ตามที่ต้องการแก้ไขค่า archive bit ใหม่ ก็สามารถรีเซตค่าของมันได้โดยกำหนดผ่านทาง Properties dialog นอกจากนี้ไฟล์ที่ถูกลบทิ้งระหว่างการทำ Full Backup ครั้งสุดท้าย กับการทำ Incremental / Differential backup ครั้งสุดท้ายก็จะกลับขึ้นมาปรากฏอีกครั้ง เมื่อคุณต้องกู้ข้อมูลกลับมา โปรแกรมแบ็กอัพข้อมูลบางตัว เช่น Dantz Development Corp’s Retrospect (www.retro-spect.com) จะใช้ระบบ File catalog ของโปรแกรมในการตัดสินใจว่าไฟล์อะไรที่เปลี่ยน-แปลงไป Retrospect’s Incremental plus จะมีคุณสมบัติในการอนุญาตให้โปรแกรมค้นหาว่า ไฟล์ใดบ้างที่ซ้ำซ้อนกันและจะจัดเก็บเพียงสำเนาเดียว
ในอดีตที่ผ่านมานั้นการแบ็กอัพข้อมูลของไดรฟ์ แบบเป็นไฟล์ Image ถูกใช้ในการแบ็กอัพข้อมูลแบบ Full backup เพียงอย่างเดียวมาตลอด จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ในเวอร์ชันล่าสุดของ Symantec Ghost ได้รวมเอาคุณสมบัติของการทำ Incremental backup เข้าไว้ด้วย คุณจึงสามารถจัดเก็บข้อมูลในแบบ Full Backup พร้อมๆ กับการทำ Incremental image ได้อีกด้วย